อยากติดฟิล์มรถยนต์ จำเป็นต้องรู้อะไรบ้าง
คนใช้รถส่วนใหญ่อาจไม่รู้ว่า โดยปกติแล้ว ฟิล์มรถยนต์มักจะเสื่อมประสิทธิภาพในการกรองแสงลง เมื่อผ่านการใช้งานไปสักระยะ (5 – 7 ปี) หรืออาจจะมากกว่านี้ตามพฤติกรรมการใช้รถ แต่หลายคนอาจทนใช้จนฟิล์มพองเป็นฟองอากาศแล้วค่อยเปลี่ยน จนทำให้บางครั้งอาจลืมกันไปเลยว่า เมื่อต้องติดฟิล์มรถยนต์ ควรจะเลือกอย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด วันนี้เราเลยมี 5 เรื่องที่ต้องรู้ เพื่อให้การติดฟิล์มรถยนต์ของคุณคุ้มค่าที่สุดมาฝาก
ค่าแสงสว่างส่องผ่าน (VLT) คืออะไรในฟิล์มรถยนต์
ค่าแสงสว่างส่องผ่อน หรือ Visible Light Transmission เป็นค่าที่บอกปริมาณแสงที่จะลอดผ่านชั้นฟิล์มเข้ามาในตัวรถที่ติดฟิล์มรถยนต์ได้ หากตัวเลข % ยิ่งน้อย นั่นหมายถึงแสงสว่างที่ผ่านเข้ามาได้ก็จะยิ่งน้อย ตัวอย่างเช่น ฟิล์มเข้ม 80 จะมีค่า VLT อยู่ที่ 5 – 19% จึงทำให้แสงลอดเข้ามาได้น้อย และเป็นชนิดฟิล์มที่ติดแล้วรถมืดนั่นเอง
ทำไมตัวเลข 40/60/80 ถึงนิยมในการติดฟิล์มรถยนต์
เพราะฟิล์มรถยนต์ทั้ง 3 ประเภทนี้ เป็นระดับความเข้มที่ตอบโจทย์กับการใช้งานในเมืองไทย โดยเฉพาะการสู้กับอุณหภูมิแสงแดด และการมองเห็นในช่วงกลางคืน เพียงแต่ต้องเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานของรถแต่ละคนเท่านั้น แม้ในความเป็นจริง จะมีประเภทฟิล์มรถยนต์ให้เลือกมากกว่านี้ก็ตาม
5 เทคนิคการเลือกฟิล์มรถยนต์ในการใช้งาน
สำหรับคนที่กำลังต้องการจะติดฟิล์มรถยนต์ใหม่ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกแบบไหนดี เรามี 5 เทคนิคในการเลือกติดฟิล์มรถยนต์ให้คุ้มค่าเงินในกระเป๋ามาฝากกัน
1. ตั้งงบประมาณที่ต้องการ
สิ่งแรกที่ต้องทำเลย ก็คือ การตั้งงบประมาณในการติดฟิล์มรถยนต์ เพราะคุณภาพของตัวฟิล์มรถยนต์ จะขึ้นอยู่กับราคาเป็นหลัก ซึ่งจะมีตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นเลยทีเดียว จึงควรวางงบไว้ก่อนเป็นอันดับแรก
2. ดูเทคโนโลยีการผลิต
เมื่อตั้งงบที่ต้องการไว้ในใจแล้ว ต่อมาให้ดูที่เทคโนโลยีการผลิต เพราะจะมีตั้งแต่การย้อมสีแบบธรรมดา ไปจนถึงเทคโนโลยีการผลิตระดับนาโน ที่จะช่วยกรองแสงได้ดีกว่าเดิม และช่วยลดความร้อนภายในห้องโดยสารลงได้อย่างดีเยี่ยม
3. เลือกวัสดุในการผลิต
ต่อมาให้ดูวัสดุที่ใช้ผลิต ไม่ว่าจะเป็นฟิล์มรถยนต์แบบปรอท นาโน ฟิล์มเซรามิกก็ตาม แต่ละประเภทของฟิล์มก็จะมีจุดเด่น และจุดด้อยที่แตกต่างกันไป รวมไปถึงงบประมาณด้านราคาร่วมด้วย
4. เลือกค่าความเข้มของฟิล์ม
และถัดมา จะต้องดูที่ค่าความเข้ม ซึ่งในไทยเราจะนิยมใช้กันไม่เหมือนระดับสากล และโดยส่วนมากมักจะเลือกติดกระจกหน้า-หลังที่ความเข้มระดับ 40 และรอบคัน 60 เพื่อการใช้รถทั้งกลางวัน และกลางคืนได้อย่างปลอดภัย เพราะหากเลือกติดในความเข้มระดับ 80 อาจทำให้เกิดอันตรายในช่วงกลางคืนได้นั่นเอง แต่หากมั่นใจว่าต้องการห้องโดยสารเย็น ๆ และไม่ได้ขับกลางคืนอยู่แล้ว ก็สามารถติดได้เช่นกัน
5. ดูการรับประกันหลังการขาย
และท้ายที่สุด ให้ดูการรับประกันของฟิล์มรถยนต์แต่ละแบรนด์ จะต้องมีการรับประกันไม่น้อยกว่า 7 ปี เพื่อบ่งบอกถึงประสิทธิภาพในการใช้งาน หากรับประกันน้อยกว่านั้น หรือไม่มีการรับประกันเลย ให้เลี่ยงการติดฟิล์มรถแบรนด์นั้นไปเลยจะปลอดภัยกว่า เพราะอาจกรองแสงไม่ได้จริง
สรุปบทความ อยากติดฟิล์มรถยนต์ จำเป็นต้องรู้อะไรบ้าง
เพราะการติดฟิล์มรถยนต์ เป็นเรื่องสำคัญในการใช้รถไม่แพ้เรื่องอื่น เนื่องด้วยสภาพอากาศในบ้านเราที่ร้อนอบอ้าว หากต้องใช้รถที่ไม่มีฟิล์มติดเอาไว้ ห้องโดยสารอาจจะร้อนจนไม่สามารถนั่งขับได้อย่างสบายนัก จึงเป็นอีกเรื่องที่ดูเหมือนจะเล็ก แต่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ส่วนใครที่มีรถใช้งาน และกำลังขาดเงินหมุนเวียนอยู่ตอนนี้ มารีไฟแนนซ์รถกับ ทิสโก้ ออโต้แคช ดีกว่า เพราะยื่นกู้ขอสินเชื่อง่าย ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก แม้จะผ่อนรถอยู่ ก็กู้ได้อย่างสบายใจ หากคุณอยากปรึกษาปัญหาทางการเงินหรือปรึกษาการขอสินเชื่อกับ ทิสโก้ ออโต้แคชสามารถ โทร. 02-1234000 หรือ แอดไลน์มาได้ที่ @TISCOautocash เราพร้อมให้คำปรึกษาและช่วยเหลือเรื่องการเงินให้คุณทันที